จอประสาทตาเสื่อม เป็นโรคที่มีแนวโน้มที่จะเกิดสูงขึ้น ซึ่งสามารถนำไปสู่การตาบอดอย่างถาวรได้ ถึงแม้ว่าส่วนมากพบในผู้สูงอายุหรือเกิดจากกรรมพันธุ์ แต่คนอายุยังน้อยก็วางใจไม่ได้ เพราะพฤติกรรมของคนในปัจจุบันที่ใช้สายตากับสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, คอมพิวเตอร์ หรือ แกดเจ็ตต่างๆเป็นเวลานาน หลายคนใช้หลายจอพร้อมกันด้วยซ้ำ ใครจะคิดล่ะว่าแสงสีฟ้าจากแกดเจ็ตเหล่านี้ กำลังทำร้ายดวงตาโดยไม่รู้ตัว

 แสงสีฟ้า อยู่ในหน้าจอที่เราจ้องกันอยู่ทุกวันนี่แหละ ซึ่งเป็นตัวการทำร้ายดวงตา ทำให้มีอาการตาพร่าและล้า ยิ่งใช้หลายจอพร้อมๆกัน หรือจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน ยิ่งส่งผลต่อจอประสาทตาโดยตรง เพราะแสงสีฟ้าจะไปกระตุ้นให้เกิดสารอนุมูลอิสระภายในลูกตา และทำลายเซลล์ประสาทตา หากใช้แกดเจ็ตเหล่านี้ไปนานๆ ก็จะทำให้แสงเข้าสู่เรตินาเซลล์ได้มาก ก่อให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม ที่จะมีอาการมองภาพตรงกลางไม่ชัด ภาพบิดเบี้ยว มีจุดดำบังตรงกลางภาพ และที่สำคัญโรคจอประสาทตาเสื่อมไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็อย่าลืมเอาใจใส่ดูแลดวงตา สามารถทำง่ายๆในระหว่างวัน 

1.พักสายตาทุกๆชั่วโมง หลับตา ละสายตาออกจากหน้าจอ

2.ปรับแสงสว่างของหน้าจอให้เหมาะกับแสงบริเวณโดยรอบ

3.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา ได้แก่ ผักใบเขียว, แครอท, ฝักทอง, ข้าวโพด หรือ เครื่องดื่มเบอร์รี่สกัดเข้มข้น ที่นอกจากมีวิตามิน A ที่ช่วยบำรุงสายตาแล้ว ยังมี ลูทีน ที่มีส่วนสำคัญที่ช่วยปกป้องและบำรุงสายตา สามารถดูดซับแสงสีฟ้าและช่วยสร้างสารต้านอนุมูลอิสระที่ปกป้องจอประสาทตาไม่ให้ถูกแสงต่างๆที่เป็นอันตรายทำลาย และยังช่วยชะลอการเสื่อมของจอประสาทตาอีกด้วย

แต่ร่างกายของเรานั้นไม่สามารถสังเคราะห์สารลูทีนเองได้ จึงต้องรับประทานเข้าไปเท่านั้น ซึ่งลูทีนเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีในผักผลไม้ที่เป็นสารสีเหลืองตระกูลแคโรทีนอยด์ ที่พบมากในโกจิเบอร์รี่ หรือจะเลือกดื่มน้ำเบอร์รี่สกัดเข้มข้นจากเบอร์รี่ 10 ชนิด ที่อุดมด้วยวิตามิน A ช่วยในการมองเห็น และมีส่วนประกอบของ ลูทีน ถ้าคุณเป็นพวกที่ใช้หลายจอแล้วล่ะก็ ต้องไม่ลืมบำรุงและดูแลดวงตากันนะคะ